จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีสิ่งต่างๆรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ทั้งสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง รวมไปถึงการศึกษาด้วยเช่นกัน สิ่งต่างๆเหล่านี้ใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงไม่นานนัก เนื่องจากได้รับอิทธิพลมาจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ในอดีตเรื่องการเรียนการสอน นักเรียนจะได้เรียนกับพระหรือกับครู ครูจะทำหน้าที่สอนและถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนผ่านทางหนังสือเรียนเพียงอย่างเดียว หรือที่เราจะได้ยินกันว่าเป็นการสอนแบบ teacher center ครูเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ นักเรียนมีหน้าที่รับความรู้จากครูโดยตรง และมีการประเมินผลการเรียนรู้ด้วยการสอบเพียงอย่างเดียว
แต่ในปัจจุบัน ศตวรรษที่ 21 นั้น ครูจะไม่ได้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้อีกต่อไป ครูจะต้องสอนแค่ประเด็นที่สำคัญและให้นักเรียนรับความรู้นั้นไปต่อยอดเอง ให้นักเรียนได้มีสิทธิเลือกที่จะเรียนรู้และปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเองต้องการ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ หรือที่เรียกว่าเป็นการสอนแบบ child center มีการประเมินผลจากทักษะ และขั้นตอนการทำงาน ไม่ใช่ผลสำเร็จของงานเพียงอย่างเดียว
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้คือเทคโนโลยี นักเรียนในยุคนี้มีความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีเป็นอย่างมาก สามารถสืบค้นข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว หน้าที่ของครูที่จะต้องเปลี่ยนเป็นสิ่งแรกคือการก้าวให้ทันโลกและทันนักเรียน ครูควรจะต้องเพิ่มทักษะทางด้านเทคโนโลยีของตนเองและนำทักษะนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียนการสอนของตนเองให้มากขึ้น เปลี่ยนที่สองคือเปลี่ยนเป้าหมายจากความรู้ไปสู่ทักษะ นักเรียนเป็นหลักในการเรียนรู้ ได้ฝึกทักษะ ลงมือปฏิบัติ นำเสนอ ทำงานเป็นทีมแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
เปลี่ยนสุดท้ายคือเปลี่ยนการวัดและประเมินผล ครูควรมีวิธีการวัดและประเมินผลจากทักษะการปฏิบัติ พัฒนาการ มากกว่าคะแนนสอบหรือผลงานที่สำเร็จเพียงอย่างเดียว
สุดท้าย...แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปไกลแค่ไหน การศึกษาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่หน้าที่่ที่ไม่เคยเปลี่ยนของครูและเทคโนโลยีก็ไม่สามารถมาแทนที่ได้คือ การให้ความรัก ความเอาใจใส่ กำลังใจต่อนักเรียนทุกคนนั้นยังคงอยู่เสมอและก็คงจะไม่มีวันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น